วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นิทรรศการ-ประกวดพระ ตำรวจภูธรภาค7-จัดครั้งที่7




งานนิทรรศการการประกวดพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ โดย "ตำรวจภูธรภาค 7" ริเริ่มมาตั้งแต่สมัย พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง เป็น ผบช.ภ.7 ต่อเนื่องมาถึงสมัย พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์, พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ, พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ และ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 คนปัจจุบัน

การจัดงานนิทรรศการการประกวดพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ ของตำรวจภูธรภาค 7 นั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งมีเจตนาเพื่ออนุรักษ์ พุทธศิลปะไทย ส่งเสริมปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในทาง พระพุทธศาสนา สร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชนทั้งในท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป หลักสำคัญเพื่อหารายได้ช่วยเหลือกิจกรรม และเป็นสวัสดิการแก่ครอบครัวข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ สนับสนุนการศึกษาบุตรธิดาข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7

นอกจากรายได้จากการจัดงานจะได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังจะได้นำไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนางานตำรวจให้มีขีดความสามารถ ทั้งประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจสังกัดภูธรภาค 7 ยิ่งขึ้น และกิจกรรม สาธารณประโยชน์อื่นๆ
 
านนิทรรศการการประกวดพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ โดย "ตำรวจภูธรภาค 7" ริเริ่มมาตั้งแต่สมัย พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง เป็น ผบช.ภ.7 ต่อเนื่องมาถึงสมัย พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์, พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ, พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ และ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 คนปัจจุบัน

การจัดงานนิทรรศการการประกวดพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ ของตำรวจภูธรภาค 7 นั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งมีเจตนาเพื่ออนุรักษ์ พุทธศิลปะไทย ส่งเสริมปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในทาง พระพุทธศาสนา สร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชนทั้งในท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป หลักสำคัญเพื่อหารายได้ช่วยเหลือกิจกรรม และเป็นสวัสดิการแก่ครอบครัวข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ สนับสนุนการศึกษาบุตรธิดาข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7

นอกจากรายได้จากการจัดงานจะได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังจะได้นำไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนางานตำรวจให้มีขีดความสามารถ ทั้งประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจสังกัดภูธรภาค 7 ยิ่งขึ้น และกิจกรรม สาธารณประโยชน์อื่นๆ

 


เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ และพิธีมอบทุนการศึกษาแก่ บุตร-ธิดา ของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 เป็นประธาน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ประธานดำเนินงานรวมทั้ง รอง ผบช.ภ.7 ผบก. รอง ผบก. ผกก.รอง ผกก. จาก ภ.จว.ต่างๆ ในสังกัดพร้อมแขกผู้มีเกียรติ บุคคลสำคัญในวงการพระเครื่อง อาทิ นายพยัพ คำพันธุ� นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายก คนที่ 1 สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายกิติ ธรรมจรัส อุปนายกคนที่ 2 สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พร้อมอุปนายกคนอื่นๆ
---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------
รวมถึงสื่อมวลชนสายพระเครื่อง สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องแกรนด�ไดมอนด� รร.เวล เมืองนครปฐม หลังจบการแถลงข่าวได้มีพิธีมอบทุนการศึกษาแก่ บุตร-ธิดา ของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ระดับ อนุบาล ถึงปริญญาตรีจำนวน 63 ทุนแยกเป็นระดับชั้นอนุบาล-ประถม 15 ทุน ทุนละ 15,000 บาท ระดับมัธยม-ปริญญาตรี 48 ทุน ทุนละ 30,000 บาท เป็นเงิน ทั้งสิ้น 1,665,000 บาท

 


สำหรับงานประกวดการอนุรักษ์ พระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ ตำรวจภูธรภาค 7 ในครั้งนี้ มี พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 เป็นประธานจัดงาน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ประธานดำเนินงาน ได้รับการสนับสนุนจาก นายพยัพ คำพันธุ� นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ และนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาไทย ทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โทรทัศน์สี ถ้วยรางวัล นายกรัฐมนตรี ถ้วยรางวัล ผบช.ภ.7

รายการพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ที่จัดประกวดรวม 4 ประเภท 1,690 รายการ รางวัลชนะเลิศ คะแนนรวมถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมโทรทัศน์สี จอแอลซีดี 46 นิ้ว 1 เครื่อง รางวัลชนะเลิศพระยอดนิยม ถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี พร้อมโทรทัศน์สี จอแอลซีดี 40 นิ้ว 1 เครื่อง รางวัลชนะเลิศทั่วไป ถ้วยรางวัล พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พร้อมโทรทัศน์สี จอแอลซีดี 40 นิ้ว 1 เครื่อง รางวัลชนะเลิศพระแต่ละประเภท หนังสือพระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ จัดทำโดยตำรวจภูธรภาค 7 ขนาด 9.75 นิ้ว คูณ 13 นิ้ว กระดาษอาร์ต 130 แกรม พิมพ์สี่สี หนา 300 หน้า เย็บกี่ปกแข็งอาบพลาสติกด้านปั๊มชื่อเคทอง

สำหรับรายการประกวดพระเครื่องทั้งหมด 48 โต๊ะ 1,690 รายการ ค่าลงทะเบียนรายการละ 300 บาท สถานที่จัดประกวด ณ หอประชุมชุณหะวัณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม เช้าวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2553

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2553 เลี้ยงรับรองคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องการจัดประกวด พร้อมการประมูลของรักของหวงที่มีผู้บริจาคให้ตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อนำเงินรายได้เข้าสมทบทุนการประกวด ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ โรงแรมเวล เมืองนครปฐม ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป

อีกงานหนึ่งที่นักล่าโล่รางวัลพลาดไม่ได้เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ และพิธีมอบทุนการศึกษาแก่ บุตร-ธิดา ของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 เป็นประธาน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ประธานดำเนินงานรวมทั้ง รอง ผบช.ภ.7 ผบก. รอง ผบก. ผกก.รอง ผกก. จาก ภ.จว.ต่างๆ ในสังกัดพร้อมแขกผู้มีเกียรติ บุคคลสำคัญในวงการพระเครื่อง อาทิ นายพยัพ คำพันธุ� นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายก คนที่ 1 สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายกิติ ธรรมจรัส อุปนายกคนที่ 2 สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พร้อมอุปนายกคนอื่นๆ
---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------
รวมถึงสื่อมวลชนสายพระเครื่อง สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องแกรนด�ไดมอนด� รร.เวล เมืองนครปฐม หลังจบการแถลงข่าวได้มีพิธีมอบทุนการศึกษาแก่ บุตร-ธิดา ของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ระดับ อนุบาล ถึงปริญญาตรีจำนวน 63 ทุนแยกเป็นระดับชั้นอนุบาล-ประถม 15 ทุน ทุนละ 15,000 บาท ระดับมัธยม-ปริญญาตรี 48 ทุน ทุนละ 30,000 บาท เป็นเงิน ทั้งสิ้น 1,665,000 บาท

 


สำหรับงานประกวดการอนุรักษ์ พระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ ตำรวจภูธรภาค 7 ในครั้งนี้ มี พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 เป็นประธานจัดงาน พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ประธานดำเนินงาน ได้รับการสนับสนุนจาก นายพยัพ คำพันธุ� นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ และนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาไทย ทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โทรทัศน์สี ถ้วยรางวัล นายกรัฐมนตรี ถ้วยรางวัล ผบช.ภ.7
---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------
รายการพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ที่จัดประกวดรวม 4 ประเภท 1,690 รายการ รางวัลชนะเลิศ คะแนนรวมถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมโทรทัศน์สี จอแอลซีดี 46 นิ้ว 1 เครื่อง รางวัลชนะเลิศพระยอดนิยม ถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี พร้อมโทรทัศน์สี จอแอลซีดี 40 นิ้ว 1 เครื่อง รางวัลชนะเลิศทั่วไป ถ้วยรางวัล พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ.7 พร้อมโทรทัศน์สี จอแอลซีดี 40 นิ้ว 1 เครื่อง รางวัลชนะเลิศพระแต่ละประเภท หนังสือพระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ จัดทำโดยตำรวจภูธรภาค 7 ขนาด 9.75 นิ้ว คูณ 13 นิ้ว กระดาษอาร์ต 130 แกรม พิมพ์สี่สี หนา 300 หน้า เย็บกี่ปกแข็งอาบพลาสติกด้านปั๊มชื่อเคทอง

สำหรับรายการประกวดพระเครื่องทั้งหมด 48 โต๊ะ 1,690 รายการ ค่าลงทะเบียนรายการละ 300 บาท สถานที่จัดประกวด ณ หอประชุมชุณหะวัณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม เช้าวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2553

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2553 เลี้ยงรับรองคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องการจัดประกวด พร้อมการประมูลของรักของหวงที่มีผู้บริจาคให้ตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อนำเงินรายได้เข้าสมทบทุนการประกวด ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ โรงแรมเวล เมืองนครปฐม ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป

อีกงานหนึ่งที่นักล่าโล่รางวัลพลาดไม่ได้
 
 
ที่มา  นสพ ข่าวสด

สโมสรวันพระ (อังคารที่ 10 ส.ค.53)




สโมสรวันพระ (อังคารที่ 10 ส.ค.53)


สวนโมกข์กรุงเทพฯ เปิดแล้ว อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งศิษย์เก่าอายุร่วมร้อยปีมาจนถึงเด็กๆ เพิ่งเกิดไม่นาน รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกอยู่ในครรภ์ ก็ไปด้วย ไปใส่บาตรที่ลานหินโค้งจำลองมาจากสวนโมกข์กันแต่เช้า จากนั้นก็ฟังธรรมจากพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แล้วก็มีโรงทานอาหารฟรี เลี้ยงทุกคนที่ไปงานเป็นพันๆ คน จากนั้นช่วงบ่ายมีการนั่งสมาธิเจริญอานาปานสติด้วยกัน นำภาวนาโดย พระอาจารย์โพธิ์ จันทสโร เจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม นอกจากนี้ยังมีดนตรีธรรมะ ห้องนิพพานชิมลอง นิทรรศการภาพสวยๆ จากสหภาพ ในอาคารปูนเปลือยไร้สีสัน กลางน้ำ แต่ทว่าช่างเต็มไปด้วความงดงามที่เรียบง่าย พร้อมใช้ประโยชน์ทุกจุดจริงๆ และหลังจากนี้ สวนโมกข์กรุงเทพฯ ก็พร้อมกิจกรรมการเจริญสติมากมาย 

อาทิ
 - จันทร์-ศุกร์ เวลา ๑๗.๓๐-๑๙.๐๐ น. สวดมนต์ทำวัตรแปลและนั่งสมาธิอานาปานสติกับพุทธทาสภิกขุ (เอื้ออำนวยการโดยกลุ่มอยู่เย็น เป็นประโยชน์) ทุกวันเสาร์ สวนโมกข์เสวนา/พุทธทาสบุ๊กคลับ เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. สอนสมาธิภาวนาอานาปานสติ ทุกวันอาทิตย์ เวลา ๑๔.๐๐-๑๗.๐๐ น. โดยพระมหาประจวบ สุจิณโณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ พระคัมภีรญาณ อภิปุญโญ วัดป่าสุญญตาราม ปราณบุรี พระสิงห์ทอง เขมิโย สวนโมกขพลาราม ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน มีกิจกรรมธรรมะในสวน ตักบาตรวันเกิดประจำเดือน ๐๙.๐๐ น. บูชาพระรัตนตรัย รับศีล ๐๙.๓๐ น. ฟังธรรม ๑๐.๓๐ น. ตักบาตรแบบสมัยพุทธกาล พระภิกษุ-สามเณร ๙ รูป ๑๑.๐๐ น. และ ทุกวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือน เวลา ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐ น. มีกิจกรรมโยคะในสวนธรรม กับ ครูโยคะอาสาของสถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โทรศัพท์ ๐-๒๙๓๖-๒๘๐๐
 - ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดเสวนาหัวข้อ “เตรียมกาย เตรียมใจ รับภัยพิบัติ” ครั้งที่ ๒ โดยมี ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผอ.มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ซีอีโอสำนักพิมพ์ดีเอ็มจีร่วมบรรยาย วันเสาร์ที่ ๑๔ สิงหาคม เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. ณ ชั้น ๔ อาคารธรรมนิเวศน์ ยุวพุทธฯ ศูนย์ ๑ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ ๐-๒๔๕๕-๒๕๒๕ และ www.ybat.org
 - ชมรมคนรู้ใจ จัดแสดงธรรมเรื่อง รู้อย่างสันโดษ โดยพระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมฺรังสี เจ้าอาวาส วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา วันอังคารที่ ๑๗ สิงหาคม และที่ เรือนธรรม จัดแสดงธรรมเรื่อง วิปัสสนา คือ อะไร (นัดพิเศษ) โดยพระอาจารย์มานพ อุปสโม แห่งศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จันทบุรี วันพุธที่ ๑๘ สิงหาคม สอบถามรายละเอียดได้ที่ ๐-๒๖๑๐-๒๓๗๗, ๐๘-๙๔๐๓-๙๙๓๑ <www.dcconsultants.co.th>


ที่มา  นสพ คมชัดลึุก
www.komchadluek.net/detail/20100810/69319/%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%28%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%8810%E0%B8%AA.%E0%B8%84.53%29.html

คณะศิษย์ 'หลวงปู่ทิม' วัดพระขาว จัดทำเว็บไซต์เทิดทูนเกียรติคุณ



คมชัดลึก : พระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต) อดีตเจ้าอาวาส วัดพระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม จนได้รับการขนานนามว่า เทพเจ้าแห่งความเมตตา โดยมีลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธานับถือในวัตรปฏิบัติของท่านอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งต่างประเทศ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นอรรถประวัติ หลักธรรม คำสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของวัตถุมงคล ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่ในความศรัทธาสนใจของศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย และพุทธศาสนิกชนมาโดยตลอด  
---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------
คณะศิษย์ของหลวงปู่ทิม จึงได้ร่วมกันจัดทำเว็บไซต์ www.luangputim.com ขึ้นมา โดยได้กราบขออนุญาตจากหลวงปู่ทิม อย่างถูกต้อง (ตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่) เมื่อปี ๒๕๔๘ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อการเผยแพร่ ประวัติ หลักคำสอน ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ รวมทั้งได้รวบรวมภาพเหตุการณ์ต่างๆ และภาพวัตถุมงคลที่ทางวัดพระขาวจัดสร้างขึ้น

 เว็บไซต์มีเว็บบอร์ดเป็นแหล่งข้อมูล และเป็นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทิมโดยตรง และการประชาสัมพันธ์เพื่อสาธารณประโยชน์ นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน โดยผู้ที่สมัครสมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ท่านที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม และสมัครสมาชิก (ฟรี) ได้ที่ www.luangputim.com



 หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือนมีนาคม ๒๔๕๖ ตรงกับปีฉลู ณ ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคนที่๕ ของคุณพ่อพร้อม กับคุณแม่กิ่ม ชุ่มโชคดี
 ในวัยเยาว์ ศึกษาเล่าเรียน ที่วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จนอายุได้ ๑๓ ปี (จบป.๔ ในสมัยนั้น) ก็ออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัวทำนา
 ในปี๒๔๗๗ เข้าอายุเกณฑ์ทหาร เป็นทหารประจำการอยู่ ๑ ปี ๓ เดือน ก็ปลดประจำการ จากนั้นในเดือนกรกฎาคม ๒๔๗๘ ได้อุปสมบท เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา ณ วัดพิกุล โดยมีหลวงปู่ปุ้ย วัดขวิด เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงลุงหลิ่ม วัดโพธิ์กบเจา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการหลิ่ว วัดพิกุล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
 ต่อมาในปี ๒๔๘๔ นับเป็นความภูมิใจของหลวงปู่เป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสรับใช้ชาติเพื่อแทนคุณแผ่นดิน โดยเข้าร่วมรบยังประเทศเขมร จากนั้นหลวงปู่ยังกลับเข้าประจำการเพื่อรักษาความสงบภายในให้ฝ่ายสัมพันธ มิตร ในสงครามโลกครั้งที่ ๒ อีกด้วย
 ด้วยความเป็นเนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนาที่จริงแท้ วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๔๙๑ ความประสงค์ที่ท่านตั้งใจมั่นไว้ก็เป็นจริงอีกครั้ง เมื่อได้รับการอุปสมบทอีกครั้ง โดยมีพระครูอุดมสมาจารย์ (หลวงพ่อสังข์) วัดน้ำเต้า เป็นพระอุปัชฌาย์ จำพรรษาที่วัดพิกุล โดยได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มกำลังตามที่ตั้งใจทั้งด้าน พระวินัย  พระธรรม อีกทั้งการเจริญกรรมฐาน
 ในปี ๒๔๘๙ หลวงปู่ได้มารับตำแหน่งสมภารวัดพระขาว ได้ใช้ความรู้ความสามารถพัฒนาวัดพระขาวในทุกๆ ด้านจนมีความเจริญและสวยงามอย่างที่เห็นในทุกวันนี้
 นอกจากหลวงปู่จะเป็นพระนักพัฒนาที่ยอดเยี่ยมแล้ว ในด้านการศึกษาธรรมะก็สามารถสอบได้ถึงนักธรรมชั้นเอกอีกด้วย
 พ.ศ.๒๕๑๐ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลน้ำเต้า และตำบลพระขาว พร้อมได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๑๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรีที่ "พระครูสังวรสมณกิจ" พ.ศ.๒๕๒๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
 เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๔๙ ได้รับการถวายปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ได้รับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ในฐานะผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาสงเคราะห์ประชาชนและส่งเสริมพัฒนาชุมชน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 
 สำหรับด้านพุทธาคม นอกจากหลวงปู่จะได้รับการศึกษาจากหลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า แล้วยังได้ศึกษาจากหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อาจารย์จู อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และสำนักเขาวงกฎ บ้านหมี่ จ.ลพบุรี 
 จากการตั้งมั่นในการศึกษา ทั้งด้านวิปัสสนากรรมฐาน และสายวิชาพุทธาคม น่าจะเป็นเหตุแห่งผลของความโด่งดัง ในด้านวัตถุมงคลของหลวงปู่ โดยเฉพาะในด้านเมตตา ไม่ว่าจะเป็นลูกอมชานหมาก ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์แทนความเมตตาของท่าน ที่มีให้แก่ศิษย์ อีกทั้งวัตถุมงคลต่างๆ ที่ทางวัดพระขาวจัดสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกในวาระต่างๆ เช่น เหรียญรูปเหมือน พระผง ล็อกเกต รุ่นต่างๆ ล้วนเป็นที่ต้องการอยากได้ไว้บูชาของลูกศิษย์ทุกคน
 จวบจนกระทั่งวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๕๕ น. หลวงปู่ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ  นับเป็นความสูญเสียพระบริสุทธิสงฆ์ ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ยังความเศร้าโศกเสียใจแก่คณะศิษยานุศิษย์ และชาวพุทธทั่วประเทศ

 แต่ด้วยบารมีธรรมและความถึงพร้อม เหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ใจก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่า สรีระของหลวงปู่ไม่ได้เน่าเปื่อยแต่ประการใด ยังคงสภาพของสังขารตามเดิม ศิษยานุศิษย์จึงพร้อมใจกันอัญเชิญสังขารของท่าน ประดิษฐานในหีบแก้วไว้บนมณฑปไม้สักทองลายรดน้ำ “อัตตสันตมหาเถราจารย์” เพื่อให้ศรัทธาสาธุชนได้กราบไหว้ จนถึงทุกวันนี้
0 บุญนำพา 0

ที่มา นสพ คมชัดลึก
www.komchadluek.net/detail/20100708/65664/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93.html

'อ.ประคอง' จัดพิธีบูชาครูบูรพาจารย์ ศิษย์เข็มทองฯ 'หลวงพ่อพิมพ์มาลัย'



ไสยศาสตร์เวทมนตร์ คาถา เป็นเรื่องของค่านิยมที่มีอยู่ในจิตสำนึกของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน เหตุผลประการสำคัญเกิดจากการที่พระพุทธศาสนามีรากฐานเดิมมาจากศาสนาพราหมณ์ จนกลายมาส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของคนไทย ตามที่ปรากฏเป็นหลักฐาน ทั้งจากตำรับตำราวิชาไสยศาสตร์ต่างๆ เช่น วิชาสักยันต์ วิชาฝังเข็ม หรือจากวรรณคดีสำคัญๆ ของชาติไทย เช่น เรื่องรามเกียรติ์ ขุนข้างขุนแผน เป็นต้น 

วิชาการฝังเข็ม ถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีมาแต่โบราณเช่นกัน ในทางการแพทย์ เป็นการฝังเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายสมดุล หรือใช้ในการรักษาโรค แต่ในเชิงไสยศาสตร์แล้ว เป็นการฝังเพื่อให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพันชาตรี หรือให้เป็นคนที่มีสง่าราศี ฯลฯ
 การฝังเข็มประกอบอาคมกำกับ มี ๒ แบบ คือ การฝังเข็ม แล้วเข็มจะอยู่กับที่ไม่วิ่งไปไหน เช่น สายของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง, ปู่โทน ขำแพ, อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ฯลฯ
 ส่วนอีกแบบหนึ่งคือ การฝังเข็มแบบที่ตัวเข็มสามารถวิ่งไปมาตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ เช่น อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ซึ่งสืบทอดวิชามาจาก หลวงพ่อพิมพ์มาลัย มาลโย วัดหุบมะกล่ำ จ.ราชบุรี เป็นการฝังเข็มทองคำประกอบอาคมกำกับ
 อ.ประคอง อธิบายว่า “การฝังเข็มทอง ก็เพื่อป้องกันคุณไสย โดยเข็มทองที่ได้ผ่านพิธีปลุกเสกมาแล้ว สามารถล้างอาถรรพณ์ในร่างกาย ขับไล่สิ่งอัปมงคลให้ออกไปร่างกาย รวมทั้งเวทมนตร์คาถาอื่นๆ ที่มีคนอื่นทำใส่ตัว ก็จะหายไปจนหมดสิ้น หรือในเวลาที่มีเหตุเภทภัยเข้ามาใกล้ตัว พลังลึกลับจากอำนาจของเข็มทอง จะเปล่งรัศมีขึ้นมาคุ้มครองร่างกายทันที ขณะเดียวกัน หากเกิดเหตุร้าย ถูกยิง หรือถูกแทง เข็มก็จะวิ่งผ่านตามผิวหนัง และแผ่พลังต้านรับเอาไว้ ไม่เกิดอันตราย ทำให้ดูเหมือนว่า ร่างกายอยู่ยงคงกระพัน ซึ่งมาจากพลังอำนาจที่มีอยู่ในตัวเข็มทองนั่นเอง และพลังแห่งอานุภาพนี้ จะแรงหรือขลังขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธาเลื่อมใสของผู้ที่ได้รับการฝังเข็ม หากยึดมั่นในคำสอนของครูบาอาจารย์ และปฏิบัติธรรมภาวนาอย่างสม่ำเสมอ เข็มทองก็สามารถปกป้องผองภัยให้อย่างมีประสิทธิภาพ”
 วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ วัดบางแวก อ.ประคอง จะจัดพิธีบูชาครูบูรพาจารย์ศิษย์เข็มทองคะนองฤทธิ์ หลวงพ่อพิมพ์มาลัย มาลโย - ท่านอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง จากนั้นเป็นพิธีฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ โดย อ.ประคอง และพระอาจารย์มนตรี (หนุ่ม) ฐิตโสภโณ
 และพิธีกรรมประสะโลหิต ฝังเข็มทองสาย อ.ฟ้อน ดีสว่าง โดย อ.ชนม์ศิริชัย (เอก) ฝังตะกรุดเพื่อความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง, ฝังตะกรุดแก้วสารพัดนึก มหาเสน่ห์มอญ กำหนดให้บูชาพานครู และรับบัตรคิว ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น. ที่วัดเพียงแห่งเดียว
 ผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับการฝังเข็มทองควรทราบกฎกติกาเสียก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจ...
สอบถามได้ที่...พระอาจารย์มนตรี (หนุ่ม) ฐิตโสภโณ วัดบางแวก ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๑๓ ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กทม.โทร.๐๘-๑๖๔๖-๙๑๙๔, ๐๘-๑๘๐๔-๒๒๘๖
0 บุญนำพา 0

ที่มา นสพ คมชัดลึก
วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2553

วัตถุมงคลพระพุทธอุดมมงคล และพระสยามนิรันตราย วัด ป่ามะไฟ



วัด ป่ามะไฟ ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี มีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมในวงการนักสะสมพระเครื่องคือ เหรียญพระสยามเทวาธิราช จัดสร้างโดยหลวงพ่อเส็ง (พระครูอุทัยธรรมธารี) อดีตเจ้าอาวาส เมื่อปี 2518 โดยมีสุดยอดคณาจารย์ชื่อดังร่วมปลุกเสกหลายรูป อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน-หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อสุด วัดกาหลง, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง, หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร, พระอาจารย์วัน วัดอภัยดำรงธรรม, ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นต้น-ล่าสุด พระครูภาวนาธรรมธารี 
เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้จัดสร้างวัตถุมงคลพระพุทธอุดมมงคล และพระสยามนิรันตราย โดยนำพิมพ์ย้อนยุคของเหรียญพระสยามเทวาธิราช รุ่นยอดนิยมของวัดป่ามะไฟ ปี 2518 มาจัดสร้างอีกครั้ง และสร้างพระกริ่งสยามนิรันตรายขึ้นเป็นรุ่นแรก 

วัตถุประสงค์
เพื่อนำรายได้เป็นทุนดำเนินการก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมและ ประดิษฐานพระอสีติธาตุ-สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานแผ่นชนวนและผงพุทธคุณ เป็นมวลสารหลอมรวมกับแผ่นจารของเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคหลายท่าน พิธีมังคลาภิเษกวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2553 (ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7) ณ อุโบสถ วัดป่ามะไฟ โดยมีพระพรหมสุธี กรรมการมหาเถรสมาคม วัดสระเกศ ประธานจุดเทียนชัย พระคณาจารย์ 16 รูปนั่งปรกอธิษฐานจิต 
สอบถามโทร.08-1983-6770 หรือเข้าชมที่ www.watpamafai.org.
 

สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) กำหนดจัดงานสมโภชสุพรรณบัฏและบำเพ็ญกุศลฉลองอายุ 75 ปี ในวันที่ 16-17 ก.ย. 2553

---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------

 ในมงคลโอกาสที่ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ (ธ) ผช.เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ ได้รับพระราชทานสถาปนา เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2552 โดยคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และคณะกรรมการ 
กำหนดจัดงานสมโภชสุพรรณบัฏและบำเพ็ญกุศลฉลองอายุ 75 ปี ในวันที่ 16-17 ก.ย. 2553 พร้อมกับ
จัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ "สมเด็จพระวันรัต" วัดบวรนิเวศ เป็นสิ่งมงคลสักการะที่ระลึก โดยประกอบพิธีเททองไปเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2553 ณ มณฑลพิธีอุโบสถ คณะรังษี-รูปแบบพระกริ่งขนาดสูง 3.8 ซ.ม. สร้างชุดพิเศษ 108 ชุด (5 องค์) เนื้อทองคำ, เงิน, นวโลหะ, สัตตโลหะ และทองทิพย์ ส่วนพระชัยวัฒน์ ขนาดสูง 1.9 ซ.ม. สร้างชุดพิเศษ 108 ชุด (5 องค์) เนื้อทองคำ, เงิน,นวโลหะ, สัตตโลหะ และทองทิพระญาณสังวร ประจำอาคารสมเด็จพระญาณสังวร โรงพยาบาลตราด ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกุศลสอบถามได้ที่ สำนักงานโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร (ข้างพระอุโบสถ) โทร.0-2282-2447, 08-9811-0373-

ที่มา นสพ ข่าวสด

วัดใหม่พิเรนทร์ จัดสร้าง "เหรียญเจริญพร 53 (ที่รฤกเยือนอินเดีย) รุ่นแรก"

---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------
"ธรรม ทั้งหลายมีใจถึงก่อน จะทำบาปทำบุญก็ใจเป็นไปก่อน" สาระธรรมมงคล หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย-"หลวงพ่อเสถียร ฉันทโก" เจ้าอาวาสวัดใหม่พิเรนทร์ โพธิ์สามต้น เขตธนบุรี 

จัดสร้าง "เหรียญเจริญพร 53 (ที่รฤกเยือนอินเดีย) รุ่นแรก" ปรารภในการเดินทางไปทำบุญครั้งใหญ่ของท่าน โดยไปทอดกฐินสร้างวัดไว้ที่ประเทศอินเดียเมื่อปี 2552 ด้วยพลังแห่งความศรัทธาของประชาชนชาวไทยและอินเดีย พิมพ์แรกเหรียญด้านหน้าหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ด้านหลังเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเสถียร พิมพ์ที่ 2 ด้านหน้ารูปเหมือนหลวงพ่อเสถียร หลังรูปเจดีย์พุทธคยา พิมพ์ที่ 3 ด้านหน้าเหรียญหลวงพ่อทวด หลังเจดีย์พุทธคยา- การจัดสร้างวัตถุมงคลครั้งนี้ ถือเป็นรุ่นแรกที่มีรูปเหมือนของหลวงพ่อเสถียร โดยประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.ค. 2553 จุดเทียนชัย-ดับเทียนชัย นั่งปรกปลุกเสกโดย "พ่อท่านเขียว" วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี และหลวงพ่อเสถียร วัดใหม่พิเรนทร์ โพธิ์สามต้น กรุงเทพฯ- 

วัตถุประสงค์ 

1.เพื่อนำปัจจัยสมทบทุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและบาลี และศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา แห่ง 34 วัดใหม่พิเรนทร์ โพธิ์สามต้น กทม.


1 เหรียญเจริญพร 53


2 พระกริ่ง-ชัยวัฒน์ สมเด็จพระวันรัต


3 เหรียญพระสยามนิรันตราย

2.เพื่อนำปัจจัยสมทบทุนในการจัดซื้อที่ดินขยายวัดเอก อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา และ 3.เพื่อนำปัจจัยสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญวัดนิคมประสาท ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา สอบถามร่วมบุญได้ที่วัดใหม่พิเรนทร์ โทร.0-2472-3417, วัดเอก จ.สงขลา โทร.08-5078-4200-สำหรับวัดใหม่พิเรนทร์ มีพระเครื่องยอดนิยมหลายรุ่น เช่น พิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล พระสมเด็จอรหัง พ.ศ.2511 สร้างโดยหลวงพ่อประวิตรวิหารการ อดีตเจ้าอาวาส โดยมีหลวงปู่อ๋อง ยโสธโร วัดใหม่พิเรนทร์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และพระเกจิดังแห่งยุคอีกหลายรูป และในการปลุกเสกครั้งนั้น หลวงพ่อเสถียรก็นั่งปรกปลุกเสกด้วย และปีพ.ศ.2513 ปลุกเสกพ่อแก่ เศียรฤๅษี โด่งดังเป็นอันมาก ต่อมาพระเกจิชื่อดังคือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่พิเรนทร์ ร่วมกับหลวงพ่อเสถียร และได้ปลุกเสกวัตถุมงคลรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ พ.ศ.2517 และพ.ศ.2519 รวมทั้ง พ.ศ.2537- ในมงคลโอกาสที่ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ (ธ) ผช.เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ ได้รับพระราชทานสถาปนา เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2552 โดยคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และคณะกรรมการ กำหนดจัดงานสมโภชสุพรรณบัฏและบำเพ็ญกุศลฉลองอายุ 75 ปี ในวันที่ 16-17 ก.ย. 2553 พร้อมกับจัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ "สมเด็จพระวันรัต" วัดบวรนิเวศ เป็นสิ่งมงคลสักการะที่ระลึก โดยประกอบพิธีเททองไปเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2553 ณ มณฑลพิธีอุโบสถ คณะรังษี-รูปแบบพระกริ่งขนาดสูง 3.8 ซ.ม. สร้างชุดพิเศษ 108 ชุด (5 องค์) เนื้อทองคำ, เงิน, นวโลหะ, สัตตโลหะ และทองทิพย์ ส่วนพระชัยวัฒน์ ขนาดสูง 1.9 ซ.ม. สร้างชุดพิเศษ 108 ชุด (5 องค์) เนื้อทองคำ, เงิน,นวโลหะ, สัตตโลหะ และทองทิพระญาณสังวร ประจำอาคารสมเด็จพระญาณสังวร โรงพยาบาลตราด ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกุศลสอบถามได้ที่ สำนักงานโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร (ข้างพระอุโบสถ) โทร.0-2282-2447, 08-9811-0373-วัดป่ามะไฟ ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี มีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมในวงการนักสะสมพระเครื่องคือ เหรียญพระสยามเทวาธิราช จัดสร้างโดยหลวงพ่อเส็ง (พระครูอุทัยธรรมธารี) อดีตเจ้าอาวาส เมื่อปี 2518 โดยมีสุดยอดคณาจารย์ชื่อดังร่วมปลุกเสกหลายรูป อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน-หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อสุด วัดกาหลง, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง, หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร, พระอาจารย์วัน วัดอภัยดำรงธรรม, ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นต้น-ล่าสุด พระครูภาวนาธรรมธารี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้จัดสร้างวัตถุมงคลพระพุทธอุดมมงคล และพระสยามนิรันตราย โดยนำพิมพ์ย้อนยุคของเหรียญพระสยามเทวาธิราช รุ่นยอดนิยมของวัดป่ามะไฟ ปี 2518 มาจัดสร้างอีกครั้ง และสร้างพระกริ่งสยามนิรันตรายขึ้นเป็นรุ่นแรก วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้เป็นทุนดำเนินการก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมและ ประดิษฐานพระอสีติธาตุ-สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานแผ่นชนวนและผงพุทธคุณ เป็นมวลสารหลอมรวมกับแผ่นจารของเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคหลายท่าน พิธีมังคลาภิเษกวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2553 (ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7) ณ อุโบสถ วัดป่ามะไฟ โดยมีพระพรหมสุธี กรรมการมหาเถรสมาคม วัดสระเกศ ประธานจุดเทียนชัย พระคณาจารย์ 16 รูปนั่งปรกอธิษฐานจิต 

สอบถามโทร.08-1983-6770 หรือเข้าชมที่ www.watpamafai.org.

---------------------------- มังคะลัง ร้านแห่งศรัทธา --------------------------------

ที่มา นสพ ข่าวสด
วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553  ปีที่ 20 ฉบับที่ 7194


พิษณุโลกเปิดถนนธรรมะ ร่วมทำบุญ-ตักบาตรพระสงฆ์ 5วัด

นาง เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า การทำบุญตักบาตร เป็นการทำบุญประจำวันของชาวพุทธ ด้วยเชื่อว่า การออกบิณฑบาตของพระสงฆ์เป็นการโปรดสัตว์ที่อยู่ในอบายภูมิ สำหรับในปี 2553 จังหวัดพิษณุโลก กำหนดจัดโครงการถนนสายธรรมะเฉลิมพระเกียรติแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และเฉลิมพระชนมพรรษา จังหวัดพิษณุโลก เริ่มตั้งแต่ถนนพุทธบูชาหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ข้ามถนนหน้าวัดราชบูรณะไปยังถนนริมน้ำน่าน จรดสะพานเอกาทศรถ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมตักบาตร (ข้าวสุก) แก่พระภิกษุและสามเณรเป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชน เห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า เป็นการเริ่มต้นชีวิตในวันใหม่ การสั่งสมบุญกุศล ทำจิตใจให้แจ่มใส เพื่อให้มีกำลังใจที่เข้มแข็งพร้อมที่จะทำงาน ดำรงตนอยู่ในวิถีแบบชาวพุทธ ตลอดถึงเพื่อเป็นการส่งเสริมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามในประเพณีการทำบุญตักบาตรของพุทธศาสนิกชน และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเพื่อเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์


ทั้งนี้ กำหนดจัดพิธีเปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา ณ บริเวณหน้าวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธาน และนิมนต์พระภิกษุ-สามเณร จำนวน 5 วัด วัดละ 9 รูป รวม 45 รูป ประกอบด้วย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดนางพญา วัดราชบูรณะ วัดใหม่อภัยยาราม และวัดท่ามะปราง โดยในวันปกติพระสงฆ์จะเริ่มออกบิณฑบาต ตั้งแต่เวลา 05.30-07.00 น. ส่วนร้านจำหน่ายอาหารตักบาตรกำหนดจัดไว้ 3 จุด คือ บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ณ บริเวณหน้าวัดราชบูรณะ และบริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก